ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศในวันหยุด
บางทีคุณอาจจำเป็นต้องเรียนสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำจากวัฒนธรรมประเทศนั้นๆ ด้วย
ไม่งั้นคุณอาจตายโดยไม่รู้ตัว
เพราะดูหมิ่นเขาอย่างสุภาษิตไทยที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
และวันนี้เรามาเรียนรู้กริยามารยาทที่ห้ามทำในต่างประเทศนั้นๆ ดีกว่า
หลายประเทศมีวัฒนธรรมและความเชื่อในแบบของเขา มายาทบางอย่างของเรามีความหมายอีกอย่าง
แต่บ้านเขาความหมายไปโน้นเลย เราไม่ได้ตั้งใจลบหลู่เขานะ
อื้อๆ............ถ้าคุณไม่เชื่อละก็คุณลองทำกริยาพวกนี้ในประเทศนั้นๆ ดูเถอะนะ
จะได้รู้ว่าเรื่องที่ผมพูดจริงหรือไม่!!(ที่มา http://www.cracked.com/article_16335_7-innocent-gestures-that-can-get-you-killed-overseas.html)+
BODY{ background:url(http://image.dek-d.com/15/604393/14413924);
background-attachment:fixed; } +
อันดับ 7 ห้ามแบมือต่อหน้าชาวกรีก
(Extend Your Hand, Palm Outward in Greece)
สากล:พอแล้วครับอิ่มแล้วครับ
(เป็นภาษากายประมาณว่าผมไม่เอา)
กรีก: "นี่นายว่าหน้าฉันมีอุจจาระเรอะ!!"
ในประเทศกรีกการแสดงอากัปกิริยาโดยทำแผ่ฝ่ามือแบบนี้ต่อหน้าชาวกรีกนั้น
ถือว่าเป็นการดูถูกพวกเขาครับ มันที่มาคือ ในสมัยอาณาจักรไบเวนไทน์ Byzantine เมื่อใดที่อาชญากรทำผิดอาญาเขาจะจับคนนั้นขังบนกรงและแห่เป็นขบวนพาเหรดบนหลังม้าตามท้องถนน
และผู้คุมจะสีดำลงในหน้าของนักโทษเพื่อประจาน ถือว่าอับอายมากๆ
ดังนั้นเวลาชาวกรีกเห็นคุณทำมือแบบนี้ละก็
ชาวกรีกจะนึกว่าคุณกำลังดูถูกพวกเขาอย่างมากๆ
เพราะคุณเปรียบพวกเขาเหมือนนักโทษที่น่าอับอายนี้เอง
อันดับ 6
ห้ามยกนิ้วโป้งที่ประเทศตะวันออกกลาง (Give the Thumbs-Up
In The Middle East)
สากล:
"กู๊ด มันยอดเยี่ยม"
ตะวันออกกลาง:
"เดี๋ยวฉันจะเอานิ้วโป้งนายยัดรูตูดเอ็ง"
มันไม่เหมาะอย่างยิ่งที่ยกหัวนิ้วโป้งในตะวันออกกลางนี้
แม้ว่ายกนิ้วโป้งจะเป็นการแสดงอากิริยาสากลก็เถอะ เราไม่รู้ที่มาการห้ามนี้มาจากที่ใด
แต่สัญลักษณ์การยกนิ้วหัวแม่มือนั้นเป็นสัญญาณที่เคยมากว่าพันปีมาแล้วในสมัยโรมัน
การต่อสู้ในสังเวียนเลือด(โคโลเซียมหรือเวทีประลอง) พวกนักต่อสู้(ซึ่งเป็นทาส
คนผิวดำ ยิว)ที่แพ้ในเวทีจะถูกตัดสินโดยเจ้าภาพว่าจะอยู่หรือตาย
โดยถ้าเจ้าภาพจะทำมือเอานิ้วหัวแม่มือขึ้น-ลง ถ้ายกนิ้วโป้งขึ้นจะรอด
แต่ถ้ายกหัวนิ้วมือลงนักสู้คนนั้นจะโดนฆ่า และแหล่งกำเนิดนี้ถูกนำไปเผยแพร่รอบๆ
อาณานิคมของโรมในที่สุด ซึ่งมันก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น
ซึ่งถ้าเป็นจริงความหมายดั้งเดิมของมันคงจะเป็น "อย่าฆ่านักโทษนะเว้ย เพราะตรูเป็นเจ้าชีวิตของพวกมัน"
อันดับ 5 มารยาทอาหารในไทย/ฟิลิปปินส์/จีน
(Finish Your Meal In Thailand / The Philippines /
China)
สากล:นี้เป็นอาหารอร่อย แต่ตอนนี้กระเพาะผมจุไม่ได้แล้วครับ
ขออภัยด้วยที่กินเหลือ
เอเชีย: มองด้วยสายตาไม่พอใจ......
เจ้าภาพ-เจ้าของบ้าน(ของประเทศทั้งสาม)นั้นให้ความสำคัญกับแขกเวลามาบ้านคุณ
พวกเขาจะจัดทำอาหารอย่างดีที่สุด โดยเลือกวัตถุดิบดีๆที่สุด
อย่างไรก็ตามราคาวัตถุดิบในการทำอาหารในประเทศนั้นค่อนข้างแพงทำให้เจ้าของบ้านทำอาหารให้พอเหมาะแก่ความต้องการต่อแขกเท่านั้น
อันดับ 4
ห้ามพบปะสนทนากับเพศตรงข้ามในซาอุดิอาระเบียโดยเปิดเผยต่อหน้าคนอื่น
(Say "Hi" to a Member of the Opposite Sex in Saudi
Arabia)
สากล: "สวัสดีค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จัก"
ซาอุฯ: "สวัสดี
ตอนนี้คุณมีความผิดฐานร่วมประเวณีผิดศิลธรรมของประเทศเราแล้วละ
ชื่อของคุณจะอยู่แฟ้มประวัติอาชญากรรมแน่นอน"
ซาอุดิอาระเบียมี
กฎหมายที่เคร่งศาสนาเพื่อป้องกันการผิดศีลธรรมต่างๆ นาๆ
คุณอาจเห็นกฎหมายห้ามชายและหญิงมีชู้, ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว(มันก็ดีนี้น่า)
แต่ถ้าใครละเมิดอาจจะได้รับบทลงโทษที่แสนรุนแรงตามมาแน่นอน
หนึ่งในนั้นก็มีกฎหมายห้ามผู้หญิง(รวมถึงผู้หญิงต่างชาติ)จับมือทักทายผู้ชายต่อหน้าสาธารณชนหรือสมาคม
และผู้ชายใดๆ ที่ไม่ใช้สามีของเธอโดยปราศจากผู้ที่ไปเป็นเพื่อน
ซึ่งเคยมีตัวอย่างมาแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ 2008 ผู้หญิงสหรัฐคนหนึ่งที่ติดต่องานโดยสนทนาและจับมือกับผู้ชายในStarbucks และถูกการจับกุมและถึงขั้นขึ้นศาล
อันดับ 3 ห้ามให้ดอกไม้เลขคู่ในรัสเซีย
(Give an Even Number of Flowers in Russia)
สากล: "ฉันชอบเสน่ห์ของเธอเหลือเกิน
มันเลยขอมอบดอกไม้ให้แทนความรู้สึกของเรา
รัสเซีย: "ตาย! ตาย! ตาย! อ๊าคคคคคคคคคคคค"
ในรัสเซียดอกไม้จำนวนเลขคู่นั้นใช้ในงานศพเท่านั้นนะครับ และแน่นอนเกิดขึ้นเอาดอกไม้จำนวนคู่เป็นของขวัญให้คนรัสเซียละก็มีหวังได้เห็นหมัดแน่นอน
เพราะมันเหมือนกับเราแช่งให้เขาตายเร็วๆ
เวลาจะให้ดอกไม้แก่คนรัสเซียควรให้ดอกไม้เลขคี่ดีกว่าและคนรัสเซียก็ไม่ให้ความสำคัญแก่สีของดอกไม้มากนัก
พูดถึงรัสเซีย
รัสเซียนี้มีประวัติวัฒนธรรมประเพณีที่ยาวนาน ถ้าเราศึกษาดีๆ
จะพบข้อที่ห้ามทำนรัสเซียอยู่เยอะ เช่น
ไม่ควรจับมือหรือหอมแก้มทักทายที่ประตูทางเข้าบ้าน,ห้ามปฏิเสธการดื่มอวยพร,เวลาไปเยี่ยมต้องเอาของที่ระลึกเป็นให้เจ้าภาพด้วย
เป็นต้น
อันดับ 2
ห้ามให้ของขวัญด้วยมือซ้ายข้างเดี่ยวในบางประเทศ ( Give a
Gift With Your Left Hand, Pretty Much Anywhere)
สากล: ฉันมาแสดงความยินดีกับงานแต่งลูกสาวของคุณ เธอสวยมาก
ฉันขอมอบของขวัญให้แก่ลูกสาวของคุณ เพราะฉันรักคุณ
(ส่งด้วยมือซ้าย)
บางประเทศ: (อีกฝ่ายคิด)ฉันมาแสดงความยินดีกับงานแต่งลูกสาวของคุณ
เธอไร้ค่ามาก เหมือนอาเจียนของสุนัขที่ฉันไปเจอมา ฉันขอมอบของขวัญนี้ให้
เพราะฉันเกลียดคุณ(ว่ะ)
ในบางประเทศถือได้ว่ามือซ้ายเป็นมือที่สกปรก โสโครก
เพราะเรามักใช้มือซ้ายจับได้สิ่งที่ไม่ดีหลายอย่าง
เช่นเรามักใช่มือซ้ายในการชำระล้างสิ่งปฏิกูลเวลาเข้าส้วม(สำหรับคนถนัดขวานะ,ลูบหน้า,นอกจากนั้นในบางวัฒนธรรมในบางประเทศเชื่อว่าคนถนัดซ้ายคือสมุนของซาตาน
ส่วนคนถนัดขวาคือมนุษย์ ซึ่งในหลายประเทศที่ห้ามส่งของขวัญด้วยมือซ้ายก็มี
อินเดีย,แอฟริกา, ศรีลังกา,ประเทศตะวันออกกลาง
พูดถึงการให้ของขวัญแก่คนต่างประเทศนี้ก็มีข้อความรู้อีกเยอะ
เช่น อย่าใช้กระดาษขาวมาห่อของขวัญแก่คนจีน,
อย่าให้ดอกไม้สีขาวแก่ชาวบังคลาเทศ ซึ่งมันอาจเป็นมารยาทเล็กๆ
ที่คุณอาจต้องรู้ไว้เวลาจะถูกมิตรกับคนต่างชาติ
เพราะคนต่างชาติไม่มองคุณเป็นคนขี่ม้าที่สี่ของบันทึกทางศาสนาของยิวแน่นอน(กษัตริย์ทั้งสี่ในศาสนาคริสต์ที่มอบของขวัญแก่พระเยซูคริสต์ในช่วงประสูติ)
อันดับ 1 ห้าม "OK" ที่บราซิล (Give
the "OK" Sign in Brazil)
สากล:ตกลง!! โอเค
บราซิล:ฮายบราซิล!! ฉันคือ
ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) ของ USA ฉันกำลังจะไปแตะผ่าหมากคุณแล้ว
บราซิล คือดินแดนแห่งสาวสวย หาดทรายขาว
และวัฒนธรรมเปิดกว้างเป็นมิตร แต่ถ้าคุณทำมือโอเคแก่ชาวบราซิลละก็
จากมิตรจะกลายเป็นศัตรูทันใด!!
ในบราซิลการทำมือ
โอเคหรือตกลงนั้นไม่ควรนำมาใช้อย่างยิ่งเพราะการทำมือ "ตกลง" เป็นการแสดงอากัปกิริยาเทียบเท่าได้กับ"ฟักยู" ในอเมริกา(โชว์นิ้วกลาง)
เราไม่รู้ว่าประวัติของการห้ามทำสัญญามือของบราซิลนี้มีที่มาอย่างไร
แต่มันก็เคยเกือบเป็นปัญหาประทศมาแล้วเมื่อ ปี 50
นิกสันมายืนอเมริกาและในขณะก้าวจากเครื่องบิน ฝูงชนรัวกล้องถ่ายรูปประชิดตัว
และขณะนิกสันกำลังก้าวไปขึ้นรถนั้นเอง
เขาก็ทำมือโอเคทักทายต่อหน้ากล้องและประธานาธิปตรีคนแรกของบราซิล
แน่นอนคนบราซิลก็นึกว่านิกสันจะเตะผ่าหมากคนทั้งบราซิล
สรุปก็คือการมาเยือนของนิกสันในบราซิลครั้งนี้ก็คือการถูกต้อนรับด้วยปัสสาวะ,อึ
ที่กระหนำปาใส่รถลีมูซีนที่ท่านนั่งอยู่ตลอดสองข้างทาง.......
ในประเทศจีน ถ้าคุณกินหมดจนคำสุดท้าย
มันแปลว่าเขาให้อาหารคุณไม่พอกิน เพราะงั้น ไม่ว่าอาหารนั้นจะอร่อยแค่ไหน
คุณก็ต้องกินเหลือไว้อย่างน้อยคำหนึ่งเสมอ และในจีน ถ้าคุณกินไปคุยไป
(คุยในขณะที่อาหารเต็มปาก) และถึงกับเรอเมื่ออิ่มนั้น เป็นมารยาทดีสุด ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น